วิธีผสมสีผมสวยๆ ที่คุณต้องทราบ

วิธี ผสม สี ผม สวย ๆ: ความงามแห่งการเปลี่ยนสีผม

1. ผลิตภัณฑ์ผสมสีที่ใช้ในการทำผม

การผสมสีผมเป็นกระบวนการที่ทุกคนสามารถทำได้ที่บ้าน แต่ก่อนที่จะเริ่มต้นกระบวนการนี้ คุณจำเป็นต้องเตรียมตัวและอุปกรณ์ที่จำเป็นก่อน โดยผลิตภัณฑ์ที่สำคัญที่ใช้ในการทำผมคือ:

– สีผม: คุณสามารถเลือกสีผมที่ตรงกับสไตล์และสีผมที่คุณต้องการได้ในร้านค้าที่ขายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการทำสีผมหรือสปาที่มีบริการส่วนของการทำสีผม
– ครีมป้องกันผมเสีย: การใช้ครีมป้องกันผมเสียก่อนการทำสีผมทำให้ผมมีความแข็งแรงและชุ่มชื้น เพื่อลดผลกระทบทางเคมีจากสารสี
– สารสำลี: สารสำลีช่วยให้สีและสารเคมีที่ใช้ในการทำสีผมเข้ากับเส้นผมได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังช่วยให้สีผมมีความถูกต้องและคงทน
– สเปรย์ครีมควบคุมสี: สเปรย์ครีมควบคุมสีช่วยให้สีผมมีความสม่ำเสมอและคงทนในช่วงเวลายาวนาน

2. ขั้นตอนการผสมสีผม

เมื่อคุณเตรียมตัวและผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นทั้งหมดแล้ว ขั้นตอนการผสมสีผมที่คุณต้องปฏิบัติตามคือ:

– ตรวจสอบความพร้อมของผม: เพื่อให้สีผมติดที่สมบูรณ์และดูสวยงามที่สุด คุณควรตรวจสอบว่าผมของคุณมีสภาพที่แข็งแรงและไม่เสียหาย หากคุณมีปัญหาเกี่ยวกับสภาพของผม ควรรักษาปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนที่จะทำการผสมสี
– เตรียมผสมสีผม: ทำการผสมสีผมตามคำแนะนำที่แสดงในกล่องสีผม เพื่อให้ได้สีที่สมบูรณ์และคงทน อ่านคำแนะนำและเงื่อนไขในการผสมสีผมให้ระมัดระวัง และปฎิบัติตามคำแนะนำทุกขั้นตอน
– ใช้สีผม: ประกอบกับคำแนะนำ ใช้สีผมทั่วตัวผมโดยปูที่รากผมและลากลงไปยังปลายของสายผม แต่อย่าลืมใช้ครีมปรับปรุงสีผมต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมและสวยงาม
– รอเวลา: หลังจากใส่สีผมให้ผลิตภัณฑ์ผสมสีดูแลผมตามเวลาระบุในคู่มือ อย่าเร่งรีบสร้างแรงจูงใจให้สีผมแห้งก่อนเวลาที่กำหนด เพราะการแต่งสีผมต้องใช้เวลาในการกักตัว ให้สีผมออกฉายในทรงผมให้ดีที่สุด

3. วิธีเลือกสีผมที่เหมาะกับลักษณะหน้าตา

การเลือกสีผมที่เหมาะกับลักษณะหน้าตาสามารถช่วยเพิ่มความงามและเสน่ห์ให้คุณได้อย่างมากหลาย ต่อไปนี้คือวิธีที่คุณสามารถเลือกสีผมที่เหมาะสมกับคุณได้:

– รูปหน้าทรงสี่เหลี่ยม: ถ้าคุณมีรูปหน้าทรงสี่เหลี่ยม คุณสามารถทำผมให้กลมโดยการเลือกสีผมเทาที่มีเสน่ห์ นอกจากนี้ สีผมสว่างและเบาเสมอก็จะช่วยเบี่ยงเบนให้ได้รูปหน้าที่ดูดี
– รูปหน้าทรงกลม: สำหรับรูปหน้าทรงกลม คุณสามารถเลือกสีผมที่มีลวดลาย หรือสลับช่วงสีเบาๆ ด้วยการใช้สีย้อมหรือการเลือกสีผมที่มีความโทนต่างๆ
– รูปหน้าทรงสามเหลี่ยม: หากคุณมีรูปหน้าทรงสามเหลี่ยม คุณควรหลีกเลี่ยงการเลือกสีผมที่มั่นใจ และจัดลําดับสีผมให้เป็นไปตามเส้นใช้งาน เพื่อทำให้รูปหน้าดูสมดุลย์
– รูปหน้าทรงหัวใจ: คุณสามารถเลือกสีผมที่อบอุ่นและเน้นทางบนส่วนกลางของผม เพื่อดึงดูดความสนใจไปที่ส่วนบนของหน้าผม
– รูปหน้าทรงโค้งหรือวงกลม: สำหรับรูปหน้าทรงโค้งหรือวงกลม คุณสามารถลองเลือกสีผมที่มีโทนสีเข้ม เพื่อเพิ่มความคมชัดและความสมส่วนให้แก่รูปหน้า

4. วิธีการทดสอบสีผมก่อนที่จะใช้

การทดสอบสีผมก่อนที่จะใช้เป็นขั้นตอนที่สำคัญเพื่อป้องกันความผิดพลาดในการเลือกสีผม และป้องกันผลกระทบทางเคมีกับเส้นผม ตามด้านล่างนี้เป็นขั้นตอนที่คุณสามารถทดสอบสีผมก่อนที่จะใช้:

– เลือกสีผมที่มีความเข้มแข็งที่เหมาะกับผมของคุณ: เลือกสีผมที่เหมาะกับสีผมของคุณในปัจจุบัน เพื่อให้สามารถปรับธรรมชาติของสีผมได้ง่ายยิ่งขึ้น
– ทดสอบสีผมทางผิวหนัง: เลือกทดสอบสีผมบนผิวหนังเล็กน้อยหรือใช้หน้าแข็งๆ เพื่อดูว่าสีผมจะเหมาะกับผิวหนังของคุณหรือไม่ และไม่มีปัญหาที่เกี่ยวกับการแพ้สารสีและสารเคมี
– ทดสอบสีผมบนสายผมที่บริเวณที่ไม่ค่อยสัมผัส: เลือกสายผมซับซ้อนด้วยสีผมและทิ้งไว้เป็นเวลา 24-48 ชั่วโมง เพื่อตรวจสอบว่าสีผมจะคงทน และไม่ทำให้เส้นผมเสียหาย

5. วิธีการการดูแลผมหลังประสบการณ์การผสมสี

หลังจากที่คุณไม่ยิ่งสิ้นเหตุรักษาสีผมของคุณด้วยประสบการณ์การผสมสี คุณจะต้องดูแลผมของคุณอย่างถูกต้องเพื่อรักษาสีผมใหม่และแสดงให้ผลลัพธ์ที่ดี สิ่งที่คุณควรทำคือ:

– ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผมที่เหมาะสม: ใช้โครงการเสริมผมที่ได้รับการแนะนำจากช่างทำผมหรือคลีนิคเสริมผม อาจมีการใช้โครงสร้้างผมเพื่อป้องกันดามเป็นรอยได้
– หลีกเลี่ยงการใช้ร้อนสูง: หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องทำความร้อนรวมถึงเตารีดผมหรือเครื่องเป่าผมให้มากที่สุดภายใน 1-2 สัปดาห์หลังจากการผสมสี นอกจากนี้ยังควรใช้พรหมมดูแลผมที่มีคุณสมบัติที่ช่วยล็อคสีผมในสภาพที่ดี
– ล้างผมให้ถูกทาง: ล้างผมด้วยน้ำมันเสริมดูแลและล้างออกผลสีที่ไม่ต้องการ อย่าล้างผมภายใน 24-48 ชั่วโมงหลังจากการแต่งสี และใช้ผลิตภัณฑ์การอนุบาลสีผมหากจำเป็น

6. เทคนิคพิเศษในการผสมสีผมเพื่อให้ผลลัพ